พวงคราม (Purple Wreath)

Group:

ชื่อไทย : พวงคราม

ชื่อสามัญ : Purple Wreath, Queen's Wreath, Sandpaper Vine, Bluebird Vine

Synonyms : Petrea arborea, Petrea racemosa, Petrea mexicana, Petrea erecta

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Petrea Volubilis. Linn.

วงศ์ : VERBENACEAE

ถิ่งกำเนิด : มีถิ่นกำเนิดในแถบอเมริกากลางจากปานามาถึงเม็กซิโก และหมู่เกาะเวสต์อินดีส

ต้นช่อม่วงพวงคราม หรือที่เรียกกันแพร่หลายว่า "พวงคราม" เป็นไม้เลื้อยชอบแดด ที่เจริญเติบโตค่อนข้างเร็ว มีเถาใหญ่แข็งแรง เนื้อแข็ง ลำต้นและกิ่งก้านก็ค่อนข้างแข็ง เถาอ่อนมีขนแต่เมื่อเถาแก่ขนก็จะหายไปเปลือกของต้นหรือเถาเป็นสีขาวหรือสีน้ำตาลอ่อนเถา พวงครามสามารถเลื้อยไปได้ไกลมากกว่า 20 ฟุต เมื่อโตแล้วมีลักษณะเป็นพุ่มใหญ่ สามารถนำไปปลูกเพื่อคลุมรั้ว คลุมศาลากลางแจ้ง ทำซุ้มประตูทางเข้า พันเสา หรือแม้แต่พันต้นไม้ใหญ่ เวลาออกดอกสะพรั่งแล้วงดงามมาก ดอกออกตามยอดเป็นช่อยาวเต็มพุ่มในฤดูหนาว แต่ดอกไม่มีกลิ่นหอม

ปัจจุบันพบเห็นพวงครามหลายพันธุ์ คือ

    - พวงครามธรรมดา - เป็นไม้เลื้อย ที่พบเห็นทั่วไป ออกดอกในฤดูหนาว

    - พวงครามต้น - เป็นไม้ยืนต้น  ใบเป็นรูปทรงรี กว้างเกือบกลมลวดลายคล้ายใบ สะระแหน่ ผิวใบหยาบสากมือและเป็นคลื่น แข็งและกรอบ สีเขียวสด ช่อดอกจะชูตั้งขึ้น ขนาดของช่อยาว ดอกมีขนาดเล็กและช่อถี่กว่า ออกดอกดกมากในฤดูหนาว

     - พวงครามดอกขาว (ชื่อวิทยาศาสตร์: Petrea volubilis cv. Albiflora, ชื่อสามัญ: White Petrea) - เป็นไม้เลื้อยลักษณะเหมือนพวงครามพันธุ์ธรรมดา และโตช้ากว่าเล็กน้อย ดอกมีสีขาว และออกในฤดูหนาว

     - พวงครามออสเตรเลีย - เป็นไม้เลื้อย ใบใหญ่และหนากว่าพันธุ์ธรรมดา ดอกมีขนาดใหญ่ สีเข้ม ช่อดอกยาวกว่าพันธุ์ธรรมดามาก ออกดอกตลอดปี

     - พวงครามแอฟริกา - เป็นไม้เถารอเลื้อย ช่อดอกจะชูตั้งขึ้น ขนาดของดอกใหญ่กว่าอย่างชัดเจน และใบจะไม่มีขน ออกดอกในฤดูหนาว

ลักษณะทั่วไป

      ลำต้น ไม้พุ่มสูงได้ถึง 4 ม. หรือเป็นไม้เถายาวได้ถึง 12 ม. หากปลูกจนมีอายุมากจำเป็นต้องใช้ค้ำยันช่วย โดยเถาเป็นไม้เนื้อแข็ง เปลือกเถา และกิ่งสีเทาอมน้ำตาลอ่อน เถาแตกกิ่งได้มาก ปลายกิ่งมีขนปกคลุม ใบ แทงออกเป็นใบเดี่ยว เรียงเป็นคู่ๆตามปลายกิ่ง ใบมีรูปรียาว สีเขียวสด โคนใบ และปลายใบสอบแหลม กลางใบกว้าง กว้างประมาณ 8-10 เซนติเมตร ยาวประมาณ 15-20 เซนติเมตร แผ่นใบเรียบ มีขนสากปกคลุมทั่ว ใบมีเส้นกลางใบสีเขียวอ่อน และเส้นใบย่อยแตกออกสลับข้างจากเส้นกลางใบ ดอกออกดอกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง แต่ละช่อมีดอก 10-50 ดอก แต่ละดอกประกอบด้วยกลีบรองดอก 5 กลีบ พวงครามมักจะออกดอกและบานพร้อมกันเต็มช่อ ดอกค่อนข้างดกและจะบานทนนานได้หลายวันมาก ขณะดอกอ่อน ซึ่งดอกตรงกลางยังไม่บานออก กลีบรองดอกจะกางออกก่อน ซึ่งจะมีสีเขียวอมขาว แล้วค่อยเปลี่ยนเป็นสีขาว สีคราม และสีม่วงเมื่อดอกบาน และแก่เต็มที่ ผล ผลสด ติดอยู่บนกลีบประดับ มีขนนุ่มปกคลุม มี 1 เมล็ด ผลค่อนข้างกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 4-6 ซม. เมื่อสุกสีม่วงหรือสีเหลืองมีเนื้อฉ่ำน้ำ

การปลูก : วิธีการปลูกพวงคราม มักจะนำกิ่งที่ได้จากการปักชำมาปลูกลงดิน ไม่นิยมปลูกลงกระถาง เนื่องจากพวงครามเป็นไม้ที่มีลำต้นค่อนข้างใหญ่ หรือมีเถาที่ค่อนข้างจะเลื้อยไปไดไกล และจะนิยมใช้กิ่งจากการปักชำมากกว่าการเพาะเมล็ด การตอน เพราะกิ่งที่ได้จากการปักชำจะได้ต้นเร็วกว่า และไม่ทำให้เสียเวลาด้วย 

การขยายพันธุ์ : พวงครามมีวิธีการขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด การตอน และการปักชำกิ่งซึ่งติดง่ายและทำได้เร็วกว่า การปักชำกิ่งในขี้เถ้าแกลบจะได้ผลดีกว่าการปักชำกิ่งในกะบะทราย หรือการปักชำกิ่งในดิน 

แสงแดด : ชอบแดดจัด ชอบอยู่กลางแจ้ง ที่มีแสงแดดส่องถึงตลอดวัน 

น้ำและความชื้น :มีความการน้ำปานกลาง แต่จะไม่ชอบให้น้ำขังแฉะ 

ดิน : พวงครามจะเจริญงอกงามได้ดี ในสภาพดินที่มีความชุ่มชื้น และดินที่มีความร่วนซุยสามารถเก็บความชื้นได้ดี 

ปุ๋ย : ถ้าหากใช้ปุ๋ยหมัก และปุ๋ยไนโตรเจน ก็จะทำให้พวงครามเจริญเติบโต และงอกงามดีกว่าการใช้ปุ๋ยสูตรอื่น ๆ 

ช่วงเวลาออกดอก : พ.ย.-ก.พ.



107 พวงคราม (Purple Wreath)