รองเท้านารีคางกบ(Paphiopedilum callosum)

Group:

ชื่อไทย : รองเท้านารีคางกบ

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Paphiopedilum callosum (Rchb. f.) Stein

ชื่อวงศ์ : ORCHIDACEAE

ชื่อพ้อง :  Cypripedium callosum Rchb. F.

ชื่อสามัญ :  Callus Paphiopedilum

ชื่ออื่น :   แมงภู่ (ลำปาง); รองเท้านาง, รองเท้านารีคางกบ (ทั่วไป); เอื้องคางกบ, เอื้องคางคก (เชียงใหม่)

การกระจายพันธุ์ : พบที่ลาว และกัมพูชา ในไทยพบทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงใต้ ขึ้นใต้ร่มเงาในป่าดิบแล้ง และป่าดิบเขา ความสูง 300-1300 เมตร

ลักษณะทั่วไป : กล้วยไม้ขึ้นตามพื้นดิน ใบรูปขอบขนานหรือแกมรูปไข่กลับ ยาว 10-20 ซม. ช่อดอกมี 1-2 ดอก ก้านช่อยาว 12-25 ซม. ใบประดับรูปไข่ ปลายแหลม ยาว 1.5-2.8 ซม. ดอกสีขาว อมเขียวหรือน้ำตาล เส้นกลีบสีม่วง กลีบเลี้ยงบนรูปไข่กว้างเกือบกลม กว้าง 4.2-6 ซม. ปลายกลีบเป็นติ่งแหลม กลีบคู่ข้างรูปรี เว้า ยาว 2.7-3.2 ซม. กลีบดอกรูปลิ้น ยาว 4.6-6.8 ซม. บิดเล็กน้อย ปลายกลีบมนหรือกลม ขอบกลีบบนและล่างมักมีจุดสีน้ำตาลแดง ถุงกลีบปากสีเขียวอมน้ำตาล ยาว 2.5-4.5 ซม. ขอบด้านในมีต่อม แผ่นเกสรเพศผู้ที่เป็นหมันรูปรี ยาวประมาณ 1 ซม. ปลายจักโค้งคล้ายรูปเคียว มีขนสั้นนุ่ม รังไข่รวมก้านยาว 3-6.5 ซม. แยกเป็น var. potentianum (O. Gruss & Roeth) P. J. Cribb ไม่มีต่อมบนกลีบดอก เป็นพืชถิ่นเดียวของไทย แต่ไม่ทราบถิ่นที่อยู่ในธรรมชาติ และ var. sublaeve (Rchb. f.) P. J. Cribb หรือเอื้องคางกบใต้ กลีบเลี้ยงบนขนาดเล็กกว่า กลีบดอกไม่บิดงอและมีจุดสีน้ำตาลแดงที่ขอบบน พบที่คาบสมุทรมลายูตอนบน และภาคใต้ของไทย ขึ้นตามป่าละเมาะ ความสูง 700-950 เมตร

การปลูกเลี้ยง : กล้วยไม้รองเท้านารี ต้องการแสงประมาณ40% อาจใช้ตาข่ายพรางแสงเพิ่มความร่มรื่นได้ รดน้ำในช่วงเช้าโดยรดให้ชื้นแต่ห้ามเปียกแฉะเกินไปและให้ระวังการรดบนใบหรือดอกกล้วยไม้รองเท้านารี การให้ปุ๋ย จะใช้ปุ๋ยเกร็ดสำหรับพ่นกล้วยไม้สูตรเสมอ เช่น 21-21-21 พ่นช่วงเช้า สัปดาห์ละ 1 ครั้ง วัสดุปลูกสำหรับปลูกกล้วยไม้รองเท้านารี ใช้วัสดุที่โปร่งระบายน้ำได้ดี เก็บความชื้นได้อย่างพอเหมาะ เช่นเปลือกมะพร้าวสับ หรือเม็ดดินเผาผสมหินเกร็ดขนาดเล็ก

แหล่งอ้างอิง : http://www.dnp.go.th/Botany/detail.aspx?words=รองเท้านารี&typeword=group



126 รองเท้านารีคางกบ(Paphiopedilum callosum)