
สร้อยสายเพชร(Clerodendrum wallichii Merr.)
Group: ไม้พุ่ม
ชื่อไทย : สร้อยระย้า
ชื่ออื่น: ระย้าแก้ว/สร้อยระย้า/สร้อยสายเพชร/สังวาลย์พระอินทร์/ตุ้มหูพระอินทร์
ชื่อสามัญ : Nodding Clerodendron
ชื่อวิทยาศาสตร์: Clerodendrum wallichii Merr.
วงศ์: LAMIACEAE (LABIATAE)
ลักษณะทั่วไป : เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ใบรูปไข่ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบดอกออกเป็นช่อตามยอด หรือที่ปลายกิ่ง ก้านดอกยาวประมาณ 25 ซม.ก้านดอกเล็กเรียวคล้ายเส้นด้าย กลีบรองดอกรูประฆัง สีแดง กลีบดอกมีสีขาวปลายแยก 5 กลีบ ออกดอกช่วงเดือนมิถุนายนไปจนถึงหน้าหนาว ประมาณเดือน ธันวาคม-มกราคม ระยะการบานของดอกนานเป็นเดือน ช่อดอกจะบาน
และยาวออกมาเรื่อยๆ จนยาวเป็นเมตรจนกว่าจะบานหมด
การปลูกเลี้ยง :ปลูกได้ 3 วิธี
1.ปลูกจากการตัดกิ่งชำ ยิ่งถ้าชำอยู่ในถุงอบเปอร์เซ็นต์รอดจะสูง หรือวิธีีง่ายก็ชำในถุงหรือในถางใส่กาบมะพร้าวสับแล้วรดน้ำชุ่มๆ ทุกวันจนรากติด
2.การเพาะต้นสร้อยสายเพชรจาก "ไหล" ซึ่งไหลในความหมายนี้คือ รากของต้นไม้ที่สามารถงอกเป็นต้นใหม่ให้นำไปเพาะได้ ต้นสร้อยสายเพชรมีไหลให้นำไปเพาะได้เยอะมาก รากชอนไชไปได้ไกล เป็นรากฝอย รากไม่ทำลายโครงสร้างของบ้าน ปลูกไว้ห่างจากตัวบ้านแค่ 1 เมตร ก็ได้หากที่มีบริเวณแคบ รากชอนไชไปทั่ว เดินไปทางไหนก็เจอต้นอ่อนงอกเต็มไปหมด
3.การเพาะเมล็ด บางทีไม่ได้เพาะผลแก่แล้วก็ร่วง ปลิวไปตกที่ไหนก็งอกไปเรื่อย
การดูแลรักษา : ชอบแดดรำไรหรือไม่มีแดดก็ได้ เพียงให้รับแสงกลางวันสักน้อยก็ได้ รดน้ำทุกวันช่วงปลูกใหม่ๆ ต่อไปเมื่อโตเต็มที่แล้วรด ๒-๓ วัน/ครั้งก็ได้ แต่แดดจัดเขาก็ไม่กลัว ปรับตัวได้ ถ้าปลูกจนใหญ่มากแล้ว ก็สู้แสงแดดเต็มๆ ได้ ข้อสำคัญคืออย่าให้ขาดน้ำ เป็นไม้ที่ชอบน้ำมากๆ เมื่อขาดน้ำจะทำให้เกิดการเหี่ยวทันที ยิ่งช่วงติดดอก ดอกจะร่วงหมด
159
สร้อยสายเพชร(Clerodendrum wallichii Merr.)
ชื่อไทย : สร้อยระย้า
ชื่ออื่น: ระย้าแก้ว/สร้อยระย้า/สร้อยสายเพชร/สังวาลย์พระอินทร์/ตุ้มหูพระอินทร์
ชื่อสามัญ : Nodding Clerodendron
ชื่อวิทยาศาสตร์: Clerodendrum wallichii Merr.
วงศ์: LAMIACEAE (LABIATAE)
ลักษณะทั่วไป : เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ใบรูปไข่ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบดอกออกเป็นช่อตามยอด หรือที่ปลายกิ่ง ก้านดอกยาวประมาณ 25 ซม.ก้านดอกเล็กเรียวคล้ายเส้นด้าย กลีบรองดอกรูประฆัง สีแดง กลีบดอกมีสีขาวปลายแยก 5 กลีบ ออกดอกช่วงเดือนมิถุนายนไปจนถึงหน้าหนาว ประมาณเดือน ธันวาคม-มกราคม ระยะการบานของดอกนานเป็นเดือน ช่อดอกจะบาน
และยาวออกมาเรื่อยๆ จนยาวเป็นเมตรจนกว่าจะบานหมด
การปลูกเลี้ยง :ปลูกได้ 3 วิธี
1.ปลูกจากการตัดกิ่งชำ ยิ่งถ้าชำอยู่ในถุงอบเปอร์เซ็นต์รอดจะสูง หรือวิธีีง่ายก็ชำในถุงหรือในถางใส่กาบมะพร้าวสับแล้วรดน้ำชุ่มๆ ทุกวันจนรากติด
2.การเพาะต้นสร้อยสายเพชรจาก "ไหล" ซึ่งไหลในความหมายนี้คือ รากของต้นไม้ที่สามารถงอกเป็นต้นใหม่ให้นำไปเพาะได้ ต้นสร้อยสายเพชรมีไหลให้นำไปเพาะได้เยอะมาก รากชอนไชไปได้ไกล เป็นรากฝอย รากไม่ทำลายโครงสร้างของบ้าน ปลูกไว้ห่างจากตัวบ้านแค่ 1 เมตร ก็ได้หากที่มีบริเวณแคบ รากชอนไชไปทั่ว เดินไปทางไหนก็เจอต้นอ่อนงอกเต็มไปหมด
3.การเพาะเมล็ด บางทีไม่ได้เพาะผลแก่แล้วก็ร่วง ปลิวไปตกที่ไหนก็งอกไปเรื่อย
การดูแลรักษา : ชอบแดดรำไรหรือไม่มีแดดก็ได้ เพียงให้รับแสงกลางวันสักน้อยก็ได้ รดน้ำทุกวันช่วงปลูกใหม่ๆ ต่อไปเมื่อโตเต็มที่แล้วรด ๒-๓ วัน/ครั้งก็ได้ แต่แดดจัดเขาก็ไม่กลัว ปรับตัวได้ ถ้าปลูกจนใหญ่มากแล้ว ก็สู้แสงแดดเต็มๆ ได้ ข้อสำคัญคืออย่าให้ขาดน้ำ เป็นไม้ที่ชอบน้ำมากๆ เมื่อขาดน้ำจะทำให้เกิดการเหี่ยวทันที ยิ่งช่วงติดดอก ดอกจะร่วงหมด
159 สร้อยสายเพชร(Clerodendrum wallichii Merr.)