
โคลงเคลง (Melastoma)
Group:
ชื่อวิทยาศาสตร์ Melastoma malabathricum L.
วงศ์ :MELASTOMATACEAE
ลักษณะทั่วไปของโคลงเคลง
ต้นโคลงเคลง มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย มาเลเซีย ออสเตรเลีย[6] โดยจัดเป็นไม้พุ่ม มีความสูงประมาณ 1-3 เมตร ลำต้นและกิ่งก้านเป็นสีน้ำตาลแดง กิ่งเป็นเหลี่ยม ทุกส่วนของลำต้นมีขนละเอียดสีน้ำตาลอ่อนปกคลุม ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการใช้เมล็ดและวิธีการแยกกอ กระจายพันธุ์ด้วยเมล็ด สามารถเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ โดยพันธุ์ไม้ในสกุลนี้ ในเมืองไทยมีอยู่ประมาณ 10 กว่าชนิด แต่สำหรับชนิดนี้จะพบขึ้นได้ตามที่ลุ่ม ในพื้นราบที่ชุ่มชื้น ขอบป่าพรุ ตลอดจนถึงบนภูเขาสูงทั่วทุกภาคของประเทศไทย
ใบโคลงเคลง ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงตรงข้ามกันเป็นคู่ ๆ และสลับตั้งฉาก ลักษณะของใบเป็นรูปใบหอก ปลายใบและโคนใบแหลม มีขนาดกว้างประมาณ 1.7-5 เซนติเมตรและยาวประมาณ 4-14 เซนติเมตร แผ่นใบค่อนข้างแข็ง ผิวใบมีเล็ดเล็กแหลม มีเส้นใบออกจากโคนใบไปจรดกันที่ปลายใบประมาณ 3-5 เส้น ส่วนเส้นใบย่อยเรียงแบบขั้นบันไดและไม่มีหูใบ
ดอกโคลงเคลง ดอกออกเป็นช่อที่ปลายยอด ช่อละประมาณ 3-5 ดอก ดอกเมื่อบานจะมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 4-5 เซนติเมตร ดอกเป็นสีม่วงอมสีชมพู โดยทั่วไปดอกจะมีกลีบดอก 5 กลีบ หรือมีกลีบ 4 กลีบ หรือ 6 กลีบก็มี ส่วนกลีบเลี้ยงดอกมี 5 กลีบ มีถ้วยรองดอกปกคลุมด้วยเกล็ดแบนเรียบ ดอกเป็นช่อแบบสมบูรณ์เพศ ดอกมีเกสรเพศผู้สีเหลือง 10 ก้านเรียงเป็นวง 2 วง และมีรยางค์สีม่วงโค้งงอ ส่วนรังไข่อยู่ใต้วงกลีบ สามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปี แต่จะมีมากในช่วงฤดูฝน
ผลโคลงเคลง ผลมีลักษณะคล้ายลูกข่าง มีขนาดกว้างประมาณ 0.6 เซนติเมตรและยาวประมาณ 0.8-1 เซนติเมตร และมีขนปกคลุม เนื้อในผลเป็นสีแดงอมสีม่วง ผลเมื่อแก่เปลือกผลจะแห้งแล้วแตกออกตามขวาง ผลมีความยาวประมาณ 0.5-1.2 เซนติเมตร ภายในผลมีเมล็ดขนาดเล็กจำนวนมาก หรือผลมีเนื้อนุ่มอยู่หลายเมล็ด
เอกสารอ้างอิง
- หนังสือสมุนไพรในอุทยานแห่งชาติภาคเหนือ. “โคลงเคลง”. (พญ.เพ็ญนภา ทรัพย์เจริญ). หน้า 106.
- สวนพฤกษศาสตร์คลองไผ่, สำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี. “โคลงเคลง”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.rspg.or.th/plants_data/kp_bot_garden/kpb.htm. [20 ก.พ. 2014].
- สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง. “โคลงเคลงขี้นก”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.kmitl.ac.th. [20 ก.พ. 2014].
- ระบบฐานข้อมูลทรัพยากรชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่นของชุมชน, สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน). “เหม่ หรือ โคลงเคลง”. (อนงค์นาฏ ศรีบุญแก้ว). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.bedo.or.th. [20 ก.พ. 2014].
- ท่องไทยแลนด์ดอทคอม. “โคลงเคลง”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.thongthailand.com. [20 ก.พ. 2014].
- โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี. “โคลงเคลงขี้นก”. อ้างอิงใน : หนังสือไม้ดอกและไม้ประดับ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.skn.ac.th. [20 ก.พ. 2014].
63
โคลงเคลง (Melastoma)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Melastoma malabathricum L.
วงศ์ :MELASTOMATACEAE
ลักษณะทั่วไปของโคลงเคลง
ต้นโคลงเคลง มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย มาเลเซีย ออสเตรเลีย[6] โดยจัดเป็นไม้พุ่ม มีความสูงประมาณ 1-3 เมตร ลำต้นและกิ่งก้านเป็นสีน้ำตาลแดง กิ่งเป็นเหลี่ยม ทุกส่วนของลำต้นมีขนละเอียดสีน้ำตาลอ่อนปกคลุม ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการใช้เมล็ดและวิธีการแยกกอ กระจายพันธุ์ด้วยเมล็ด สามารถเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ โดยพันธุ์ไม้ในสกุลนี้ ในเมืองไทยมีอยู่ประมาณ 10 กว่าชนิด แต่สำหรับชนิดนี้จะพบขึ้นได้ตามที่ลุ่ม ในพื้นราบที่ชุ่มชื้น ขอบป่าพรุ ตลอดจนถึงบนภูเขาสูงทั่วทุกภาคของประเทศไทย
ใบโคลงเคลง ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงตรงข้ามกันเป็นคู่ ๆ และสลับตั้งฉาก ลักษณะของใบเป็นรูปใบหอก ปลายใบและโคนใบแหลม มีขนาดกว้างประมาณ 1.7-5 เซนติเมตรและยาวประมาณ 4-14 เซนติเมตร แผ่นใบค่อนข้างแข็ง ผิวใบมีเล็ดเล็กแหลม มีเส้นใบออกจากโคนใบไปจรดกันที่ปลายใบประมาณ 3-5 เส้น ส่วนเส้นใบย่อยเรียงแบบขั้นบันไดและไม่มีหูใบ
ดอกโคลงเคลง ดอกออกเป็นช่อที่ปลายยอด ช่อละประมาณ 3-5 ดอก ดอกเมื่อบานจะมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 4-5 เซนติเมตร ดอกเป็นสีม่วงอมสีชมพู โดยทั่วไปดอกจะมีกลีบดอก 5 กลีบ หรือมีกลีบ 4 กลีบ หรือ 6 กลีบก็มี ส่วนกลีบเลี้ยงดอกมี 5 กลีบ มีถ้วยรองดอกปกคลุมด้วยเกล็ดแบนเรียบ ดอกเป็นช่อแบบสมบูรณ์เพศ ดอกมีเกสรเพศผู้สีเหลือง 10 ก้านเรียงเป็นวง 2 วง และมีรยางค์สีม่วงโค้งงอ ส่วนรังไข่อยู่ใต้วงกลีบ สามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปี แต่จะมีมากในช่วงฤดูฝน
ผลโคลงเคลง ผลมีลักษณะคล้ายลูกข่าง มีขนาดกว้างประมาณ 0.6 เซนติเมตรและยาวประมาณ 0.8-1 เซนติเมตร และมีขนปกคลุม เนื้อในผลเป็นสีแดงอมสีม่วง ผลเมื่อแก่เปลือกผลจะแห้งแล้วแตกออกตามขวาง ผลมีความยาวประมาณ 0.5-1.2 เซนติเมตร ภายในผลมีเมล็ดขนาดเล็กจำนวนมาก หรือผลมีเนื้อนุ่มอยู่หลายเมล็ด
เอกสารอ้างอิง
- หนังสือสมุนไพรในอุทยานแห่งชาติภาคเหนือ. “โคลงเคลง”. (พญ.เพ็ญนภา ทรัพย์เจริญ). หน้า 106.
- สวนพฤกษศาสตร์คลองไผ่, สำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี. “โคลงเคลง”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.rspg.or.th/plants_data/kp_bot_garden/kpb.htm. [20 ก.พ. 2014].
- สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง. “โคลงเคลงขี้นก”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.kmitl.ac.th. [20 ก.พ. 2014].
- ระบบฐานข้อมูลทรัพยากรชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่นของชุมชน, สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน). “เหม่ หรือ โคลงเคลง”. (อนงค์นาฏ ศรีบุญแก้ว). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.bedo.or.th. [20 ก.พ. 2014].
- ท่องไทยแลนด์ดอทคอม. “โคลงเคลง”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.thongthailand.com. [20 ก.พ. 2014].
- โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี. “โคลงเคลงขี้นก”. อ้างอิงใน : หนังสือไม้ดอกและไม้ประดับ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.skn.ac.th. [20 ก.พ. 2014].
63 โคลงเคลง (Melastoma)