เดหลีใบกล้วย (Peace lily)

Group:

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Spathiphyllum wallisei .

วงศ์ : Araceae
ชื่อสามัญ : Peace lily

ชื่อท้องถิ่น : เจ็ดทิวา หน้าวัวไทย กวักมงคล กวักมงคลใบโพธิ์
ถิ่นกำเนิด : ประเทศในแถบทวีปอเมริกาใต้ อาทิ โคลัมบีย และเวเนซูเอล่า มีมากกว่า 40 ชนิด

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น : เป็นไม้ล้มลุกที่มีอายุนานหลายปี มีลำต้นแยกออกเป็น 2 ส่วน คือ ลำต้นส่วนใต้ดินที่เป็นหัว และไหล และลำต้นเหนือดินแตกหน่อจากไหลขึ้นมา โดยลำต้นเหนือดินแตกหน่อออกด้านข้างทำให้เป็นกอจนแลดูเป็นทรงพุ่มขนาดเล็ก ลำต้นสูงประมาณ 40 – 70 เซนติเมตร ทั้งนี้ ทุกส่วนทั้งลำต้น ใบ และดอก เมื่อกรีดจะมีน้ำยางใส

ใบ : ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับกันจากลำต้น ก้านมีสีเขียวเข้ม ยาว 30-40 เซนติเมตร ใบมีรูปรี แผ่นใบเรียบ และเป็นมัน มีสีเขียวเข้ม โคนใบสอบแคบ ปลายใบเรียวแหลม และโค้งลงดิน ขอบใบเป็นคลื่นเล็กน้อย ขนาดใบกว้าง 15-25 เซนติเมตรยาว 25-50 เซนติเมตร มีเส้นกลางใบเป็นร่องสีเขียวเข้มชัดเจน

ดอก : ดอกออกดอกเป็นช่อ แทงออกจากยอดของลำต้น ยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตร ปลายก้านดอกประกอบด้วยใบประดับสีขาวนวล 1 ใบ มีลักษณะเป็นรูปหัวใจสวยงาม โคนใบกว้างเว้าตรงกลาง ปลายใบแหลม กว้างประมาณ 8-12 เซนติเมตร ยาว 15-20 เซนติเมตร ถัดมาเป็นช่อดอกที่มีลักษณะเป็นแท่งทรงกระบอก ซึ่งประกอบด้วยดอกย่อยที่ไม่มีก้านดอก ขนาดเล็กจำนวนมาก คล้ายกับไข่แมงดานา โดยดอกย่อยแต่ละดอกมีสีเหลืองอ่อน ซึ่งเมื่อบานจะส่งกลิ่นหอมอ่อนๆนาน 8-10 วัน ซึ่งจะส่งกลิ่นหอมแรงในช่วงเช้า ทั้งนี้ เดหลีจะออกดอกได้ตลอดทั้งปี และออกดอกมากในฤดูฝนตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กันยายน

ผล :เป็นไม้ที่ขยายพันธุ์ตามธรรมชาติด้วยการแตกหน่อ จึงเป็นไม้ที่ติดผลได้น้อยมาก จึงไม่ค่อยพบเห็นผลได้

การปลูก : เดหลีใบกล้วย เป็นไม้ดอกที่ชอบดินร่วน และมีความชื้นสูง ชอบแสงแดดรำไร อุณหภูมิประมาณ 18-25 องศา ซึ่งสามารถปลูกได้ทั้งในกระถาง และปลูกในแปลงใต้ต้นไม้ใหญ่ นิยมปลูกด้วยการแยกหน่อหรือต้นอ่อนเป็นหลัก เนื่องจากดอกติดเมล็ดได้น้อยมาก ส่วนการปักชำไม่นิยมเช่นกัน เพราะจะต้องตัดต้นมาปักชำเท่านั้น เนื่องจากลำต้นไม่แตกกิ่ง แต่จะใช้ในกรณีที่ต้องถอนต้นหรือตัดต้นทิ้งจากแปลง เพื่อให้ต้นเกิดราก และเติบโตใหม่ ทั้งนี้ เดหลีนิยมปลูกทั้งในกระถางสำหรับตั้งไว้ในอาคาร และปลูกในแปลงจัดสวนบริเวณที่มีร่มไม้ใหญ่หรือมีแสงส่องรำไร

การเตรียมดิน : เป็นไม้ที่ชอบดินร่วนซุย ดังนั้น ดินหรือวัสดุที่ใช้ปลูกควรเป็นดินร่วนหรือนำดินร่วนมาผสมกับปุ๋ยคอกหรือวัสดุอินทรีย์อื่นๆ เช่น แกลบดำ ขุ๋ยมะพร้าวเป็นต้น

การแยกหน่อ : เดหลีใบกล้วยที่ปลูกนานกว่า 1 ปี จะเริ่มแตกหน่อได้อย่างรวดเร็ว และสำหรับหน่อเดหลีที่ใช้แยกปลูก ควรมีความสูงประมาณ 15-20 เซนติเมตร นอกจาก การแยกหน่อแล้ว ยังสามารถแยกเหง้าหรือต้นออกปลูกได้ด้วย ทั้งนี้ การขุดหน่อหรือแยกต้นออกปลูกให้ขุดเปิดหน้าดินจนเห็นหน่อหรือรอยต่อของต้นก่อน หลังจากนั้น ให้ใช้มีดหรือเสียมเล็กแทงตัดหน่อหรือลำต้นออก และจะต้องให้มีรากติดหน่อหรือลำต้นมาด้วยทุกครั้ง

วิธีปักชำ :วิธีนี้เพาะนี้ ไม่เป็นที่นิยม และไม่ค่อยได้ผลนัก เพราะลำต้นมักเน่าหรือแห้งตายก่อน ซึ่งมักใช้ในกรณีที่ต้องตัดต้นทิ้งจากแหล่งปลูก และบริเวณเหง้าเสียหายจนต้องตัดทิ้ง ทำได้ด้วยการตัดโคนลำต้น แล้วนำปักชำลงแปลงหรือในกระถาง ก่อนจะรดน้ำจนกว่าต้นจะติดหรือรากแทงออก

การดูแล :
– รดน้ำ ควรให้น้ำเป็นประจำทุกวัน อย่างน้อย 2 วันต่อครั้ง ในปริมาณที่เพียงหน้าดินชุ่ม
– ใส่ปุ๋ย ควรเน้นที่ปุ๋ยคอกเป็นหลัก ให้ 2-3 เดือน/ครั้ง แต่ละครั้งให้ 1-2 กำมือ หรืออาจให้ร่วมกับปุ๋ยสูตร 15-15-15 ด้วยการละลายน้ำ 1 หยิบมือ ในทุกๆปีละ 2 ครั้ง 



66 เดหลีใบกล้วย (Peace lily)