
แนสเจอเตี้ยม(Nasturtium)
Group:
ชื่อสามัญ: Nasturtium, Indian Cress
ชื่อวิทยาศาสตร์: Tropaeolum majus L.
ชื่อวงศ์: TROPAEOLACEAE
ถิ่นกำเนิดและการกระจายพันธุ์: ในต่างประเทศ พบที่ประเทศเม็กซิโกตอนใต้ เปรู โคลัมเบีย จนถึงโบลิเวีย ในประเทศไทย พบนำเข้ามาปลูกประดับบนที่สูง เช่นดอยอ่างขาง ดอยตุง
การกระจายพันธุ์: ไปทั่วทุกภาคส่วนที่มีอากาศหนาวเย็น ที่สูง
สถานภาพ: ไม้ดอกอายุสั้น เป็นพันธุ์พืชต่างถิ่นกำเนิด นำเข้ามาปลูกประดับบนพื้นที่อากาศเย็น
ลักษณะทั่วไป
ต้น เป็นพุ่มสูง 0.20-1 เมตร เจริญเติบโตเร็วและแข็งแรง มีทั้งชนิดพุ่มและชนิดเลื้อย
ใบ ใบเดี่ยวรูปหลายเหลี่ยมค่อนข้างกลม ขนาด 3-5 เซนติเมตร เส้นใบเป็นรัศมีออกจากกลางใบ ก้นใบปิด (คล้ายใบบัวหลวงขนาดเล็ก) ขอบบิดเป็นคลื่นเล็กน้อย ใบสีเขียวหรือเขียวด่างขาว
ดอก ออกตามซอกใบมีทั้งดอกชั้นเดียวและดอกซ้อน 5 กลีบ โคนกลีบคอดเล็กและมีรยางค์เส้นเล็ก ๆ กลีบดอกบนมีเดือยยาว ภายในมีน้ำหวานเพื่อล่อแมลง กลีบดอกมีสีขาว ครีม ชมพู เหลือง ส้ม และแดง ก้านดอกยาว 10-15 เซนติเมตร ดอกมีกลิ่นหอม
ฝัก รูปกลม มี 3 พู เมล็ด ขนาดใหญ่ 7-9 เมล็ด/กรัม เมล็ดพันธุ์มีทั้งผิวเรียบและผิวย่น
สภาพที่เหมาะสมและการขยายพันธุ์ นาสเตอร์เดียวชอบแสงแดดเต็มวัน อากาศเย็น มีบางพันธุ์ทนร้อนได้ ดินร่วนปนทราย ไม่ควรสมบูรณ์มากนัก เพราะจะทำให้ใบดก แต่ออกดอกน้อย รดน้ำเมื่อหน้าดินแห้ง ชนิดเลื้อยชอบน้ำมากกว่าชนิดพุ่ม การปลูกเมล็ดลงในกระถางได้เลยโดยไม่ต้องผ่านการย้ายกล้า เพราะต้นกล้าบอบช้ำง่าย หรือเพาะเมล็ดโดยกลบเมล็ดบาง ๆ วางภาชนะเพาะในที่มีแสงแดดจัดจ้า เมล็ดงอกภายใน 10-14 วัน เวลาเพาะเมล็ดจนถึงออกดอกราว 70 วัน
ดิน: ดินร่วนปนทรายที่ไม่สมบูรณ์มากนักจะทำให้ออกดอก
แสงแดด: เต็มวัน
สภาพอากาศ: ชอบอากาศเย็น มีบางพันธุทนร้อนได้ รดน้ำเมื่อหน้าดินแห้ง
น้ำ/ควาชื้น: ปานกลาง ชนิดเลื้อยชอบน้ำมากกว่าชนิดพุ่ม
การขยายพันธุ์: ปลูกเมล็ดลงกระถางได้เลย ไม่ต้องย้ายกล้า เพระต้นกล้าบอบซ้ำง่ายหรือเพาะเมล็ดโดยกลบเมล็ดบางๆวางภาชนะเพาะในที่มีแสงรำไร เมล็ดจะงอกใน 10-14 วัน ตั้งแต่เพาะเมล็ดจนออกดอกใช้เวลา 70 วัน
ประโยชน์: ใบและดอกนิยมรับประทานเป็นผักสด มีรสเผ็ดและให้กลิ่นหอมคล้ายกับวอเตอร์เครส
73
แนสเจอเตี้ยม(Nasturtium)
ชื่อสามัญ: Nasturtium, Indian Cress
ชื่อวิทยาศาสตร์: Tropaeolum majus L.
ชื่อวงศ์: TROPAEOLACEAE
ถิ่นกำเนิดและการกระจายพันธุ์: ในต่างประเทศ พบที่ประเทศเม็กซิโกตอนใต้ เปรู โคลัมเบีย จนถึงโบลิเวีย ในประเทศไทย พบนำเข้ามาปลูกประดับบนที่สูง เช่นดอยอ่างขาง ดอยตุง
การกระจายพันธุ์: ไปทั่วทุกภาคส่วนที่มีอากาศหนาวเย็น ที่สูง
สถานภาพ: ไม้ดอกอายุสั้น เป็นพันธุ์พืชต่างถิ่นกำเนิด นำเข้ามาปลูกประดับบนพื้นที่อากาศเย็น
ลักษณะทั่วไป
ต้น เป็นพุ่มสูง 0.20-1 เมตร เจริญเติบโตเร็วและแข็งแรง มีทั้งชนิดพุ่มและชนิดเลื้อย
ใบ ใบเดี่ยวรูปหลายเหลี่ยมค่อนข้างกลม ขนาด 3-5 เซนติเมตร เส้นใบเป็นรัศมีออกจากกลางใบ ก้นใบปิด (คล้ายใบบัวหลวงขนาดเล็ก) ขอบบิดเป็นคลื่นเล็กน้อย ใบสีเขียวหรือเขียวด่างขาว
ดอก ออกตามซอกใบมีทั้งดอกชั้นเดียวและดอกซ้อน 5 กลีบ โคนกลีบคอดเล็กและมีรยางค์เส้นเล็ก ๆ กลีบดอกบนมีเดือยยาว ภายในมีน้ำหวานเพื่อล่อแมลง กลีบดอกมีสีขาว ครีม ชมพู เหลือง ส้ม และแดง ก้านดอกยาว 10-15 เซนติเมตร ดอกมีกลิ่นหอม
ฝัก รูปกลม มี 3 พู เมล็ด ขนาดใหญ่ 7-9 เมล็ด/กรัม เมล็ดพันธุ์มีทั้งผิวเรียบและผิวย่น
สภาพที่เหมาะสมและการขยายพันธุ์ นาสเตอร์เดียวชอบแสงแดดเต็มวัน อากาศเย็น มีบางพันธุ์ทนร้อนได้ ดินร่วนปนทราย ไม่ควรสมบูรณ์มากนัก เพราะจะทำให้ใบดก แต่ออกดอกน้อย รดน้ำเมื่อหน้าดินแห้ง ชนิดเลื้อยชอบน้ำมากกว่าชนิดพุ่ม การปลูกเมล็ดลงในกระถางได้เลยโดยไม่ต้องผ่านการย้ายกล้า เพราะต้นกล้าบอบช้ำง่าย หรือเพาะเมล็ดโดยกลบเมล็ดบาง ๆ วางภาชนะเพาะในที่มีแสงแดดจัดจ้า เมล็ดงอกภายใน 10-14 วัน เวลาเพาะเมล็ดจนถึงออกดอกราว 70 วัน
ดิน: ดินร่วนปนทรายที่ไม่สมบูรณ์มากนักจะทำให้ออกดอก
แสงแดด: เต็มวัน
สภาพอากาศ: ชอบอากาศเย็น มีบางพันธุทนร้อนได้ รดน้ำเมื่อหน้าดินแห้ง
น้ำ/ควาชื้น: ปานกลาง ชนิดเลื้อยชอบน้ำมากกว่าชนิดพุ่ม
การขยายพันธุ์: ปลูกเมล็ดลงกระถางได้เลย ไม่ต้องย้ายกล้า เพระต้นกล้าบอบซ้ำง่ายหรือเพาะเมล็ดโดยกลบเมล็ดบางๆวางภาชนะเพาะในที่มีแสงรำไร เมล็ดจะงอกใน 10-14 วัน ตั้งแต่เพาะเมล็ดจนออกดอกใช้เวลา 70 วัน
ประโยชน์: ใบและดอกนิยมรับประทานเป็นผักสด มีรสเผ็ดและให้กลิ่นหอมคล้ายกับวอเตอร์เครส
73 แนสเจอเตี้ยม(Nasturtium)